สวัสดีค่ะ ชื่อจูนนะคะ ศึกษาที่KICLอยู่เป็นระยะเวลา1ปีครึ่งและจบการศึกษาที่ระดับ上級2มาได้เกือบๆครึ่งปีแล้วค่ะ ตอนนี้ศึกษาอยู่ที่วิทยาลัยวิชาชีพ(専門学校) ในเกียวโตค่ะ
เนื่องจากโรงเรียนนี้อยู่ในเครือของมหาลัย
Kyoto
University of the Artsวันนี้ก็เลยอยากจะมาเล่าถึงประสบการณ์การเรียนวิชาเสริมศิลปะของทางโรงเรียน(美術進学クラス) แล้วก็ห้อง上級2(Advanced 2)กันค่ะ !
เริ่มกันที่คลาส美術進学クラスหรือคลาสศิลปะเสริมหลังเลิกเรียนนี่แหล่ะค่ะ (เห็นว่ายังไม่มีใครเขียนถึงเลยขอลงละเอียดหน่อยนะคะ)
หลายๆคนอาจจะได้ยินมาบ้างว่าโรงเรียนนี้มีสอนศิลปะมั่งแหล่ะ
แต่ก็มีความรู้สึกแบบเห้ยมันมีจริงๆหรออะไรแบบนี้เนอะ
พูดคร่าวๆคือคลาสนี้จะสอนศิลปะพื้นฐานแบบพื้นฐานมากกก ถ้าใครมีความรู้ด้านนี้มาแล้วอาจจะแอบน่าเบื่อนิดนึง
555
ถ้าให้แบ่งคลาสหลักๆที่เรียนก็จะมี デッサン(ดรอว์อิ้ง/วาดเส้น) 、色彩 (ลงสี) 、แล้วก็特別授業ที่เป็นคลาสเลกเชอร์พิเศษที่นานๆจะมีครั้ง พอเข้าช่วงหลังๆก็จะเป็นการติวสอบเข้ามหาลัยตามสายของเด็กนักเรียนแต่ละคนค่ะ
ตรงตัวเลยค่ะ เป็นคาบดรอว์อิ้ง (ฮา)
แต่สำหรับคนไทยที่เคยมีประสบการณ์ด้านนี้แล้วอาจจะมีขัดใจนิดนึงตรงที่ว่า
เขาไม่ใช้EEกันค่ะ(ร้องไห้)
ที่ญี่ปุ่น(และเหมือนจะทุกๆที่ที่ไม่ใช่ประเทศไทย)เขาจะเน้นการใช้ดินสอตั้งแต่4Hยัน6B 8Bในการวาดรูปๆนึง
ส่วนตัวเราอาจจะไม่ชินที่ต้องมาคอยเปลี่ยนดินสอบ่อยๆแต่ไปเรื่อยๆก็ชินไปเองค่ะ
ส่วนใหญ่ที่ให้วาดก็จะมีพวก
แก้วกระดาษ ขวดพลาสติก กล่องทิชชู่ ช่วงหลังๆก็จะมีให้วาดมือบ้าง
คล้ายๆคลาสดรอว์อิ้งในบ้านเราเลยค่ะ
คาบลงสีที่หลายๆคนว่ามันต้องแบบเป็นคลาสที่ปาดสีกันอย่างเมามันและติสต์แตกมากแน่ๆแต่จริงๆแล้วไม่ใช่เลยค่ะ555
เนื่องจากคนที่มาเรียนมีทั้งสายดีไซน์ สถาปัตย์ วาดการ์ตูน
หลายสายผสมกันไปหมดเขาเลยเน้นไปที่การสอนให้วิธีลงสีให้เนียนเรียบ การเลือกคู่สี
การผสมสีซะมากกว่าค่ะ หลังๆก็มีให้วาดรูปตามหัวข้อมั่งแหล่ะ แต่อันนี้ครูจะปล่อยให้เป็นไปตามจินตนาการของเด็กแล้ว
จะวาดออกมาแนวไหนก็ได้เลยค่ะ
(ตัวอย่างงานแรกๆที่ทำในคาบค่ะ แฮ่)
คาบพิเศษที่จะมีครูจากมหาลัยมาสอนโดยตรงเอง
เป็นคลาสแนวๆอบรมความคิด การสื่อสารกับคนอื่น ซึ่งทำให้ชีวิตตอนเข้าเรียนแรกๆสบายขึ้นมากสำหรับคนที่อยากเรียนต่อที่วิทยาลัยKyoto Art and Design college
(ส่วนด้านมหาลัยเราไม่แน่ใจนะคะว่าเหมือนกันมั้ย)
เพราะมันต้องเจอคลาสเดียวกันเป๊ะๆเลยค่ะตอนช่วงปฐมนิเทศ 555
(งานกลุ่มที่ทำในคลาส ครูให้เอาลวดมาดัดเป็นตัวละครแล้วสร้างสตอรี่ค่ะ)
อ่านมาถึงตรงนี้แล้วหลายๆคนอาจจะเริ่มงงละว่าจะเรียนดีมั้ยอะไรแบบนี้
โดยส่วนตัวสำหรับเราคือถ้าอยากเรียนต่อด้านนี้จริงๆก็แนะนำให้เรียนค่ะ
นอกจากสกิลวาดรูปพื้นฐานแล้วก็จะมีศัพท์ญี่ปุ่นเฉพาะด้านศิลปะนี่แหล่ะค่ะที่จะได้ไปเต็มๆ
ซึ่งจะไม่มีสอนในคลาสภาษาญี่ปุ่นนะคะ (ต่อให้มา上級2ก็ไม่มีนะเออ)
แล้วก็ทางด้านอาจารย์ก็จะคอยดูแลด้านการยื่นเอกสารเรียนต่อ เตรียมตัวสอบสัมภาษณ์
ไปถึงขั้นให้กำลังใจตอนสติแตกเลยค่ะ ฮา (ใครเล่มเกมกาชาครูเขาก็มาช่วยกดกาชาให้ด้วยนะ---
แค่กๆ) ถ้าใครไม่มีภาระด้านการเงินแล้วอยากเรียนต่อด้านนี้ก็เป็นคลาสนึงที่แนะนำให้ลงเรียนไว้นะคะ! (มาเรียนกันเถอะคุณครูเขาเหงา)
ลืมบอกไป
คนที่จะเข้าคลาสนี้ได้ต้องอยู่ระดับ中級ขึ้นไปไม่งั้นเขาไม่ให้ลงนะคะ!
พูดซะยาวเลย
ในที่สุดเราก็เข้ามาเรื่องห้อง上級2แล้วค่ะ เย่! (เราจะไม่พูดเยอะมากเท่าไหร่นะคะเพราะเห็นคนเขียนเกี่ยวกับเรื่องนี้เยอะแล้ว
ฮา) หลายคนเลยพอเห็นคนเรียนห้องนี้แล้วจะมีความสึกแบบ “โหย ต้องเทพแน่ๆเลย” “งี้ก็อ่านภาษาญี่ปุ่นออกทุกคำเลยดิ” ประมานนี้กันเยอะ ซึ่งเราขอบอกตรงนี้เลยค่ะว่ามันไม่ใช่!!! (ร้องไห้) เอาจริงๆคือยากก็ยากแหล่ะค่ะแต่มันก็ยังไม่ครอบจักรวานแบบที่หลายๆคนคิดเนอะ
เนื้อหาส่วนใหญ่ที่เรียนๆกันก็จะแนวๆอ่านข่าวอะไรแบบนี้แหล่ะค่ะ มีรัฐธรรมนูญ, วัฒนธรรม, ประวัติศาสตร์มั่งผสมๆกันไป วิธีการสอนก็จะไม่เหมือนกับคลาสอื่นๆคือเหมือนให้มานั่งถกปัญหากัน
คุยกันในห้องแทนการนั่งอ่านไปเรื่อยๆค่ะ
(บางครั้งก็จะมีให้ออกไปแต่งนิยายกับกลอนบ้าง เพิ่มรสชาติในการเรียน555)
ซึ่งคลาสนี้เป็นคลาสที่ปวดตับที่สุดเท่าที่เคยเรียนมา
และเป็นคลาสเดียวที่เรายอมแพ้ตอนสอบไปเลยค่ะ มันโหดร้ายมากในด้านของเนื้อหา
แต่ถ้านับเรื่องชีวิตในแต่ละวันที่ต้องไปเรียนแล้ว
มันจะเป็นคลาสที่เรามีความสุขมากที่สุดค่ะ ฮา
อาจจะมีส่วนเกี่ยวกับเพื่อนร่วมห้องเราด้วย
แต่ด้วยสไตล์การสอนในห้องนี้ที่ไม่เน้นท่องจำเน้นกิจกรรมบ้าๆบอๆ(?)เลยลดความเครียดเราตอนเรียนไปได้มากค่ะ
(แต่หัวจะระเบิดตอบสอบแทน....)
(ความรู้สึกตอนเปิดข้อสอบก็จะประมานนี้แหล่ะค่ะ....)
ไฮไลท์ของคลาสนี้คือในวันพิธีจบการศึกษาห้องเราจะมีแสดงละครเวทีกันค่ะ
ทุกคนจะตั้งใจในการซ้อมและคิดบทพูดกันมาก (มากกว่าตอนสอบอีกค่ะ....) โรงเรียนก็จะจัดคาบว่างมาให้เพื่อซ้อมอย่างเดียวกันเป็นเดือนๆกันเลย
ถือเป็นอีเว้นท์ใหญ่อีเว้นท์นึงเลยทีเดียวค่ะ555 ทางมหาลัยก็จะร่วมมือโดยการให้โปรมาจัดแสงบนเวทีให้ด้วยแหล่ะ!
(แอบขโมยรูปจากไลน์กลุ่มของห้องมา
แฮ่)
สำหรับเราโรงเรียนนี้มันเป็นมากกว่าโรงเรียนสอนภาษาเนอะ
ทุกครั้งที่ไปโรงเรียนเจอเพื่อนๆแล้วทำอะไรบ้าๆบอๆด้วยกัน
มันให้ความรู้สึกเหมือนกลับไปเป็นเด็กม.ปลายอีกครั้งนึง555
หลายๆคนอาจจะกลัวที่ต้องออกมาเรียนที่ต่างประเทศคนเดียวแล้วเวลาเจอปัญหาอะไรจะทำตัวไม่ถูกอะไรแบบนี้
แต่ที่นี่จะคอยมีคนคอยซัพพอร์ทตลอด พี่ๆคนไทยที่นี่ก็น่ารักกันทุกคนเพราะงั้นไม่ต้องเป็นห่วงค่ะ!
สุดท้ายนี้ขอขอบคุณKICLที่ทำให้เราสนุกสนานปนเครียดมาตลอด1ปีครึ่งนี้
แล้วก็ยินดีต้อนรับทุกคนที่คิดจะมาเรียนต่อที่นี่นะคะ
ไม่แน่เราอาจจะไปรับทุกคนในวันรับน้องใหม่ก็ได้นะ :D
จบ(มาซักพัก)แล้ว เย่!!!
0 件のコメント:
コメントを投稿