ประสบการณ์เรียนภาษาที่ญี่ปุ่นเพื่อสอบเข้าเซมมง

การมาของเราในครั้งนี้ถือเป็นอะไรที่เรียกได้ว่าโชคช่วยมาก ๆ เพราะช่วงนั้นญี่ปุ่น (และที่อื่น ๆ ในโลก) ปิดประเทศกันเป็นแถวด้วยพิษโควิด ระหว่างรอประกาศเปิดประเทศเราจึงได้เรียนออนไลน์กับทาง KICL ที่ไทยและระหว่างกักตัวเป็นเวลาราว ๆ 1 เดือน

 

ต้องขอเท้าความก่อนว่าเราเรียนภาษาญี่ปุ่นมาตั้งแต่ม.ปลาย - มหาลัย มีประสบการณ์ผ่านคันจิและข้อสอบภาษาญี่ปุ่นมาอย่างโชคโชน ทั้งเคยมาแลกเปลี่ยนที่ญี่ปุ่นหนึ่งปี และไม่คิดว่าชีวิตนี้จะมาอีกแล้ว แต่ด้วยเหตุผลหลายอย่างทำให้เราตัดสินใจกลับมาสู้กับภาษาญี่ปุ่นอีกครั้ง

 เราเลือก KICL เพราะโรงเรียนอยู่ที่เกียวโตและอยู่ในเครือของมหาวิทยาลัย ทำให้สามารถใช้คาเฟ่ ห้องสมุด หรือสถานที่ต่าง ๆ ภายในมหาวิทยาลัย Kyoto University of Art and Design ได้เหมือนนักศึกษาทั่วไป และด้วยเป้าหมายที่จะสอบเข้าเรียนต่อวิชาชีพในโรงเรียนเครือเดียวกัน (Kyoto Institute of Design) จึงตัดสินใจแบบไม่ลังเล 

 

Winter

 

Spring

เราเริ่มที่ระดับ 中級3 (ชั้นกลางประมาณ N2) ราว 1 เดือนของการเรียนออนไลน์ แน่นอนว่าไม่ได้สนุกเหมือนกับการเรียนกับเพื่อนในห้องเรียน แต่เราก็รู้สึกได้ถึงความใส่ใจและระบบการจัดการที่ดีของทางโรงเรียน เราตามเนื้อหาในห้องทัน ได้มีส่วนร่วมกับเพื่อน ๆ ในห้องถึงแม้ว่าจะอยู่ต่างที่ และแม้จะจบคาบเรียนไปแล้วก็ยังมีช่วงเวลาให้พูดคุยกับอาจารย์ถึงปัญหาต่าง ๆ ในการเรียนและการใช้ชีวิตกักตัวที่ญี่ปุ่นด้วย

พอหมดช่วงกักตัวได้เจอเพื่อนที่โรงเรียนก็ยิ่งสนุกเข้าไปใหญ่ จากที่เคยกังวลว่าจะหาเพื่อนได้ยากเพราะเข้ามาทีหลัง แต่กลับไม่มีปัญหาอะไรเลย ทุกคนเป็นมิตรและคุยง่ายมาก ทำให้การไปโรงเรียนของเรามีสีสันทุกวัน (ฮา) เพื่อนส่วนใหญ่ในตอนที่เราอยู่คือชาวไต้หวัน นอกนั้นเนื่องจากโควิดทำให้ต่างชาติไม่ค่อยมีมากนัก แต่เราก็ได้รู้จักกับเพื่อนหลากหลาย ทั้งอเมริกัน แคนาดา หรือแม้กระทั่งโปแลนด์

เซนเซที่โรงเรียนทุกท่านใจดีและตั้งใจสอนกันมาก ๆ เวลาไม่เข้าใจอะไรเราสามารถถามได้แบบไม่กังวล การเรียนการสอนในห้องก็เป็นระบบ ทำให้เราเข้าถึงฟัง พูด อ่าน เขียนได้ตลอดทั้งสัปดาห์ ระหว่างเรียนเราไม่ได้สอบวัดระดับภาษาญี่ปุ่น แต่พอเห็นเพื่อน ๆ ในห้องผ่าน N1 N2 กันรัว ๆ ก็รู้เลยว่าการเรียนที่นี่ช่วยได้มากจริง ๆ จากใจคนที่เคยผ่านเอกภาษาญี่ปุ่นมา บอกเลยว่าที่ KICL สอนเข้มข้นพอ ๆ กับมหาลัย สำหรับใครที่สนใจก็เตรียมใจไว้ดี ๆ นะคะ (ฮา) ได้พัฒนาภาษาญี่ปุ่นแน่นอน

และอย่างที่กล่าวไปแล้วข้างต้น จุดประสงค์การมาในครั้งนี้ของเราคือการสอบเข้าเซมมง (専門学校) หรือโรงเรียนวิชาชีพที่ประเทศญี่ปุ่น ซึ่งที่ KICL ก็มีวิชาเลือกสำหรับผู้ที่สนใจศึกษาต่อรวมถึงระดับมหาวิทยาลัย หรือปริญญาโทด้วย อาจารย์จะคอยดูแลให้คำปรึกษาเกี่ยวกับขั้นตอนตั้งแต่การสมัครทั่วไปจนถึงรายละเอียดเล็ก ๆ น้อย ๆ แม้แต่ซ้อมสัมภาษณ์ เรียกว่าไม่ต้องกลัวพลาดกันเลยทีเดียว

ในส่วนของการสอบเข้ามีวิธีการแตกต่างกันไปตามสถานศึกษา ส่วนตัวเราสมัครเข้าเรียนที่ Kyoto Institute of Design สิ่งจำเป็นหลัก ๆ 2 ที่ต้องมีในการสมัครคือ ความรู้ภาษาญี่ปุ่นและผลสอบวัดระดับ JLPT N2 (หรือ EJU) ส่วนตอนสอบนั้นแบ่งเป็นสอบสัมภาษณ์ (ภาษาญี่ปุ่น) และข้อเขียน (ภาษาญี่ปุ่นอีกเช่นกัน) แต่ไม่ต้องกลัวไป เพราะไม่ยากอย่างที่คิด  เราเตรียมตัวด้วยการท่องคำถามที่น่าจะออกในการสัมภาษณ์กับคำตอบ ส่วนข้อเขียนก็งัดทักษะภาษาญี่ปุ่น (อันน้อยนิด) ที่มีออกมาใช้ ซึ่งแน่นอนว่าระหว่างเรียนที่ KICL เราก็ได้ฝึกเขียนภาษาญี่ปุ่นแทบทุกวันจนพอจะเอาไปใช้ประโยชน์ในการสอบได้ ทั้งนี้ทั้งนั้นก็ต้องขอบคุณอาจารย์ทุกท่านและการสอบสุดเข้มข้นที่ทำให้เราสามารถสอบเข้าโรงเรียนวิชาชีพได้สำเร็จ !

 

 

สุดท้ายนี้ก็ขอลากันด้วยภาพสวย ๆ ของเกียวโตยามฤดูใบไม้ผลิมาเยือน หวังว่าบทความนี้จะเป็นประโยชน์กับผู้ที่สนใจหรือลังเลที่จะมาเรียนต่อที่ประเทศญี่ปุ่นนะคะ (กระซิบ : มาเถอะค่ะ สนุกจริง ๆ น้า)